..สวท.ตรัง ฟังทั่วโลก Fm 91.25 Mhz.. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115 116 117 118 119 120 121 122 123 124 125 126 127 128 129 130 131 132 133 134 135 136 137 138 139 140 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 151 152 153 154 155 156 157 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167 168 169 170 171 172 173 174 175 176 177 178 179 180 181 182 183 184 185 186 187 188 189 190 191 192 193 194 195 196 197 198 199 200 201 202 203 204 205 206 207 208 209 210 211 212 213 214 215 216 217 218 219 220 221 222 223 224 225 226 227 228 229 230 231 232 233 234 235 236 237 238 239 240 241 242 243 244 245 246 247 248 249 250 251 252 253 254 255 256 257 258 259 260 261 262 263 264 265 266 267 268 269 270 271 272 273 274 275 276 277 278 279 280 281 282 283 284 285 286 287 288 289 290 291 292 293 294 295 296 297 298 299 300 301 302 303 304 305 306 307 308 309 310 311 312 313 314 315 316 317 318 319 320 321 322 323 324 325 326 327 328 329 330 331 332 333 334 335 336 337 338 339 340 341 342 343 344 345 346 347 348 349 350 351 352 353 354 355 356 357 358 359 360 361 362 363 364 365 366 367 368 369 370 371 372 373 374 375 376 377 378 379 380 381 382 383 384 385 386 387 388 389 390 391 392 393 394 395 396 397 398 399 400 401 402 403 404 405 406 407 408 409 410 411 412 413 414 415 416 417 418 419 420 421 422 423 424 425 426 427 428 429 430 431 432 433 434 435 436 437 438 439 440 441 442 443 444 445 446 447 448 449 450 451 452 453 454 455 456 457 458 459 460 461 462 463 464 465 466 467 468 469 470 471 472 473 474 475 476 477 478 479 480 481 482 483 484 485 486 487 488 489 490 491 492 493 494 495 496 497 498 499 500 501 502 503 504 505 506 507 508 509 510 511 512 513 514 515 516 517 518 519 520 521 522 523 524 525 526 527 528 529 530 531 532 533 534 535 536 537 538 539 540 541 542 543 544 545 546 547 548 549 550 551 552 553 554 555 556 557 558 559 560 561 562 563 564 565 566 567 568 569 570 571 572 573 574 575 576 577 578 579 580 581 582 583 584 585 586 587 588 589 590 591 592 593 594 595 596 597 598 599 600 601 602 603 604 605 606 607 608 609 610 611 612 613 614 615 616 617 618 619 620 621 622 623 624 625 626 627 628 629 630 631 632 633 634 635 636 637 638 639 640 641 ค้นข่าวท้องถิ่น    9609  ข่าว   จังหวัดตรัง เพิ่มประชากรปูม้าบริเวณแหล่งหญ้าทะเลปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์เพื่อความยั่งยืน รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-1/3/2558 6:12:29] ความเห็น (0) จังหวัดตรัง   เพิ่มประชากรปูม้าบริเวณแหล่งหญ้าทะเล ปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ เพื่อความยั่งยืน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธงชัย นิติรัฐสุวรรณ อาจารย์สาขาวิชาการจัดการประมงและธุรกิจสัตว์น้ำ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า สาเหตุหลักของการลดลงของปูม้าที่สำคัญ       คือ การทำประมงปูม้าที่มีไข่นอกกระดอง ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง     ได้ร่วมกับชุมชนประมง จ.ตรัง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดโครงการศักยภาพการเพิ่มประชากรปูม้าบริเวณแหล่งหญ้าทะเลขึ้น   โดยได้รวมกลุ่มประมงปูม้าในระดับต่างๆ     พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรปูม้าแก่ชาวประมง     การเพิ่มประชากรปูม้าคืนสู่ธรรมชาติ     โดยเฉพาะบริเวณแหล่งหญ้าทะเล     ส่งเสริมให้ชาวประมง    ลดการทำการประมงปูม้าเพศเมียที่มีไข่นอกกระดอง เพื่อให้แม่ปูได้วางไข่ อันจะส่งผลให้มีทรัพยากรปูม้ารุ่นใหม่ในธรรมชาติ     ทั้งนี้    ได้ดำเนินการในชุมชนชาวประมงขนาดเล็กที่ทำประมงปูม้าจำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย บ้านแหลมไทร บ้านทุ่งทอง ต.เขาไม้แก้ว บ้านปากเมง บ้านฉางหลาง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา และ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง   และผลการวิจัยล่าสุด    พบว่า   หลังจากปล่อยลูกปูม้าที่เพิ่งฟักออกมาบริเวณแหล่งหญ้าทะเล 2-3 เดือน   มีปูม้าขนาดกลางเพิ่มมากขึ้นในบริเวณที่นำลูกปูม้ามาปล่อย เมื่อปูม้าเติบโตมากขึ้น    ก็จะอพยพออกจากแหล่งหญ้าทะเล     ไปยังพื้นที่ทำการประมง ซึ่งอยู่รอบนอกของแหล่งหญ้าทะเล    การดำเนินโครงการดังกล่าว      นอกจากจะเป็นการเพิ่มผลผลิตปูม้าแล้ว ยังเป็นการสร้างและกระตุ้นให้ชาวประมงมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าเพื่อให้เกิดความยั่งยืนอีกด้วย   อำเภอห้วยยอด จัดประชุมคณะกรรมการระดับอำเภอโครงการ สร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-1/3/2558 6:09:59] ความเห็น (0) อำเภอห้วยยอด   จัดประชุมคณะกรรมการระดับอำเภอโครงการ สร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง  นายไตรรัตน์  ไชยรัตน์  นายอำเภอห้วยยอด   จังหวัดตรัง    เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับอำเภอโครงการ สร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง  ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง  ซึ่งตำบลนาวง    อำเภอห้วยยอด   เป็น พื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก   และเป็น 1   ในเป้าหมายที่ต้องดำเนินโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน  1  ล้านบาท   นายอำเภอห้วยยอด    กล่าวว่า     ลักษณะของการใช้งบประมาณได้มอบผ่านศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.)ไปขับเคลื่อนดำเนินการประชุมเกษตรกรและนำเสนอโครงการ ที่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตและเป็นโครงการในภาพรวมของชุมชน สิ่งสำคัญทุกโครงการจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2558 โดยมีเกณฑ์ทุกโครงการจะต้องมีการจ้างแรงงานในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 50%หรือหากต่ำกว่าจะต้องได้รับความเห็นชอบจากเกษตรตำบล และทางทหาร ขณะเดียวกันก็ต้องการกระจายเงินไปสู่ประชาชนให้ทันในช่วงฤดูแล้งนี้ ด้านนายสินาด   อำนักมณี  เกษตรอำเภอห้วยยอด กล่าวว่า     สำหรับโครงการนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เงินลงไปถึงองค์กรที่อยู่ในตำบล ดังนั้นในเรื่องการเงินจะดำเนินการผ่านธนาคารทั้งหมด โดยเกษตรกรที่มาทำงานด้วยก็ต้องเปิดบัญชีกับธนาคาร ธ.ก.ส. เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และหากสามารถทำโครงการได้ดีและประสบผลสำเร็จมีความโปร่งใสในทุกขั้นตอนอนาคตก็อาจจะมีโครงการแบบนี้ขึ้นมาอีกได้   จังหวัดตรัง ประกาศเจตนารมณ์ “จังหวัดตรัง ใสสะอาด” เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและร่วมขับเคลื่อนวาระเร่งด่วน รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:25:58] ความเห็น (0) จังหวัดตรัง ประกาศเจตนารมณ์ “จังหวัดตรัง ใสสะอาด” เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและร่วมขับเคลื่อนวาระเร่งด่วน            นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้อ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ โดยกำหนดให้การป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในภาครัฐ เป็นวาระสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และร่วมขับเคลื่อนวาระเร่งด่วนดังกล่าว จังหวัดตรังจึงได้กำหนดให้มีการประกาศเจตนารมณ์ “จังหวัดตรัง ใสสะอาด” และการลงนามข้อตกลง (MOU) ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กับหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดตรัง นายอำเภอทุกอำเภอ ในวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2558 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมพระยารัษฎา ศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 5 พร้อมกับมอบมาตรการ แนวทางการปฏิบัติ “จังหวัดตรัง ใสสะอาด” เพื่อให้บุคลากรของรัฐทุกระดับในจังหวัดนำไปใช้เป็นหลักในการปฏิบัติราชการให้มีความโปร่งใส และป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับอย่างเคร่งครัด ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า หลังจากได้มีการลงนามข้อตกลงดังกล่าวแล้ว จะขอความร่วมมือให้ทุกส่วนราชการดำเนินการให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับในสังกัด ลงนามรับทราบการประกาศเจตนารมณ์ “จังหวัดตรัง ใสสะอาด” พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะนำมาตรการดังกล่าวไปยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแล้วส่งเอกสารที่ได้ลงนามแล้ว รายงานให้จังหวัดทราบต่อไป   จ.ตรัง จัดโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:25:43] ความเห็น (0) จ.ตรัง จัดโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558            นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรังได้ดำเนินการโครงการมอบกรรมสิทธิ์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 ซึ่งจะไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 60 ตัว โดยขอรับบริจาคโค-กระบือ จากผู้มีจิตศรัทธาโคเพศเมีย ราคาตัวละ 25,000 บาท กระบือเพศเมีย ราคาตัวละ 27,000 บาท หรือผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเป็นเงินได้ตามกำลังศรัทธา เพื่อรวบรวมจัดหาโค-กระบือ เพื่อมอบให้เกษตรกรที่ยากจนในพื้นที่ยืมไปเลี้ยงเพื่อการผลิต โดยเกษตรกรจะได้รับโคหรือกระบือรายละ 1 ตัว และเกษตรกรจะต้องปฏิบัติตามระเบียบของโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ โดยมีเงื่อนไขโดยสรุปคือ ลูกตัวที่ 1 ให้ส่งคืนโครงการฯ เมื่อสัตว์มีอายุครบ 18 เดือน ส่วนลูกตัวที่ 2 , 3 หรือ 4 พร้อมแม่จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกร เมื่อเลี้ยงครบตามสัญญา 5 ปี โดยกำหนดการจัดงานพิธีมอบกรรมสิทธิ์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง   กล่าวว่า ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคหรือร่วมทำบุญเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สามารถแจ้งความประสงค์บริจาคและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือ ที่หมายเลข 0-7521-8377 หรือ ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอทุกอำเภอในจังหวัดตรัง   จ.ตรัง กำหนดจัดงาน “ชุมนุมสตรี เนื่องในวันสตรีสากลจังหวัดตรัง ครั้งที่ 30 ปี 2558” รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:25:29] ความเห็น (0) จ.ตรัง กำหนดจัดงาน “ชุมนุมสตรี เนื่องในวันสตรีสากลจังหวัดตรัง ครั้งที่ 30 ปี 2558”            นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตรัง ร่วมกับ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดตรังและคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวดตรัง กำหนดจัดงาน “ชุมนุมสตรี เนื่องในวันสตรีสากลจังหวัดตรัง ครั้งที่ 30 ปี 2558” ในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2558 ณ โรงแรมวัฒนาพาร์ค อำเภอเมืองตรัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สตรีได้แสดงพลังร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสตรีในการพัฒนาสตรีให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และการยกย่อง ประกาศเกียรติคุณ เชิดชูเกียรติแก่ผู้นำสตรีที่ทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม ชุมชน และสังคม ในการจัดงานครั้งนี้มีการมอบเกียรติบัตรแก่สตรีดีเด่น การประกวดแม่ลูก คู่เหมือน การแสดงบนเวทีของสตรี การจัดนิทรรศการของหน่วยงาน และการจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์อีกด้วย   ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง จัดโครงการพัฒนาตลาดกลางค้าส่งผักสด ผลไม้สด เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:25:13] ความเห็น (0) ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง จัดโครงการพัฒนาตลาดกลางค้าส่งผักสด ผลไม้สด เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย            ดร.กัลยา อนุลักขณาปกรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง เปิดเผยว่า ตลาดกลางค้าส่งมีความสำคัญอย่างมากในการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศและยังสามารถควบคุมสินค้าทั้งในเรื่องราคาและคุณภาพ ส่วนในประเทศไทยมีตลาดการค้าส่งที่สำคัญหลายแห่งที่เป็นแหล่งรวบรวมและการกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ดังนั้น ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาตลาดกลางค้าส่งผักสด ผลไม้สด เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการตลาดค้าส่งมีความรู้เรื่องสารเคมีกำจัดแมลงตกค้างในผักสด ผลไม้สด และระบบการตรวจสอบสารพิษในผักสด ผลไม้สด พัฒนาและเตรียมความพร้อมของตลาดค้าส่ง และเร่งรัดดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ตลอดจนอาหารปลอดภัย ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง ได้กล่าวอีกว่า ทางศูนย์วิทย์ฯ ได้บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอรัษฎา โรงพยาบาลรัษฎา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองปางและเทศบาลตำบลคลองปาง โดยดำเนินการที่ตลาดคลองปาง อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง เป็นตลาดค้าส่งเป็นแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคในพื้นที่ต่างๆ จากการเก็บและทดสอบตัวอย่างผักสด ไม่พบการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช แต่พบการปนเปื้อนจุลินทรีย์เกินมาตรฐาน จำนวน 18 และ 17 ตัวอย่าง ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง กล่าวว่า สำหรับผลการตรวจวิเคราะห์ที่พบการปนเปื้อนจุลินทรีย์ในตัวอย่างผักสด ได้ศึกษาเบื้องต้นด้วยการล้างผักสดในน้ำสะอาด เพื่อลดปริมาณการปนเปื้อนจุลินทรีย์ในผักสดที่ผ่านการล้างน้ำสะอาด 1-3 ครั้ง กับผักสดที่ไม่ผ่านการล้าง พบว่าผักสดที่ไม่ผ่านการล้าง มีการปนเปื้อนอยู่ ส่วนผักสดที่ผ่านการล้างด้วยน้ำสะอาด 1-2 ครั้ง สามารถลดปริมาณการปนเปื้อนน้อยลง และผักสดที่ผ่านการล้างด้วยน้ำสะอาด 3 ครั้ง ไม่พบการปนเปื้อน ดังนั้น การบริโภคผักสดที่ไม่ผ่านการล้างหรือไม่ผ่านความร้อน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค การล้างผักสดด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถช่วยลดปริมาณการปนเปื้อนของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช   ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง แนะวิธีป้องกันการเกิดอัคคีภัย เพื่อลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:24:48] ความเห็น (0) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง   แนะวิธีป้องกันการเกิดอัคคีภัย    เพื่อลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน นายสมเกียรติ  อินทรคำ   หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง  กล่าวว่า     ปัญหาอัคคีภัยที่เกิดขึ้นจากไฟฟ้าลัดวงจร เกิดขึ้นได้จริง   เนื่องจากสายไฟเก่า ใช้งานมานาน จึงเสื่อมสภาพ ฉนวนไฟฟ้าเกิดการแห้งกรอบ   ทำให้สายทองแดงมาชนกัน เกิดประกายไฟและเกิดไฟไหม้บ้านตามมา     ซึ่งเราสามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวได้    โดยการตรวจสอบสายไฟฟ้า ดูสีของสายไฟ ถ้าใช้งานมานาน    ฉนวนสายไฟออกสีน้ำตาล ดูเก่า และแห้งกรอบ ฉนวนสายไฟอาจแตกร่อน ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร จึงควรเปลี่ยนสายไฟใหม่      อย่าใช้กำลังไฟเกิน     สายไฟที่อยู่คู่บ้านมานานแสนนาน สร้างบ้านใหม่ ๆ อุปกรณ์ไฟฟ้ามีไม่กี่ชิ้น เดี่ยวนี้อุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่สายไฟยังเส้นเดิม ถ้าใช้ไฟเกิน สายไฟจะร้อน และละลายเกิดไฟไหม้ฉนวนสายไฟลุกลามไหม้บ้าน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง  กล่าวเพิ่มเติมว่า     จากระเบียบการช่วยเหลือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หากเกิดไฟไหม้บ้านไม่ถึง 3 หลังคาเรือน จะไม่ได้รับการประกาศเป็นสาธารณภัย และไม่ได้รับการช่วยเหลือ และการช่วยเหลือจากระเบียบอื่น ๆ ก็สามารถให้การช่วยเหลือได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท     ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าบ้านหลังหนึ่ง    จะมีราคาเพียง 3 หมื่นบาท ดังนั้น     จึงเห็นว่า    ควรหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุด  ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอัคคีภัย      เทศบาลนครตรังส่งเสริมส่งเยาวชน สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย จัดงาน ศิลป์สร้างสุข ประจำปี 2558 รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:24:20] ความเห็น (0) เทศบาลนครตรังส่งเสริมส่งเยาวชน สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย จัดงาน ศิลป์สร้างสุข ประจำปี 2558 นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า ในวันวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2558 เทศบาลนครตรังได้จัดกิจกรรม ศิลป์สร้างสุข ประจำปี 2558 ณ สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 (เขาแป๊ะซ้อย) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เห็นถึงคุณค่าของงานศิลปะ วัฒนธรรม ตลอดจนสามารถนำทักษะที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มีเวทีในการแสดงความสามารถ และเป็นการแสดงศักยภาพของเยาวชน สามารถถ่ายทอดไปยังสาธารณะชนได้ อีกทั้งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย สำหรับกิจกรรมศิลป์สร้างสุข ประจำปี 2558  ประกอบด้วยการแสดงมโนราห์ หนังตะลุงเยาวชน ‘การแสดงดนตรีสตริงเยาวชน, นาฏศิลป์เยาวชน ,ดนตรีสากล และชมนิทรรศการด้านศิลปะ วัฒนธรรม ทั้งนี้การแสดงเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป   สาธารณสุขตรัง ขยายการจัดตั้งชมรม To Be Number One ในสถานพินิจฯสำนักงานคุมประพฤติ และย่านการค้า หลัง ชมรม To Be Number One จังหวัดตรัง ประสบความสำเร็จ คว้ารางวัลดีเด่นระดับภาคใต้ และระดับประเทศ รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:23:29] ความเห็น (0) สาธารณสุขตรัง  ขยายการจัดตั้งชมรม  To Be Number One ในสถานพินิจฯสำนักงานคุมประพฤติ    และย่านการค้า  หลัง  ชมรม  To Be Number One จังหวัดตรัง   ประสบความสำเร็จ  คว้ารางวัลดีเด่นระดับภาคใต้ และระดับประเทศ  นายแพทย์วิฑูรย์ เหลืองดิลก    นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า   จังหวัดตรังได้น้อมนำโครงการ To Be Nunber One มาดำเนินงาน    ตั้งแต่ปีพุทธศักราช   ๒๕๔๖ ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายอายุ ๖- ๒๔ ปี ของจังหวัด เข้าร่วมเป็นสมาชิก To Be Number One  จำนวน ๑๘๕,๗๔๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๕.๗๕ มีชมรม To Be Number One  ในสถานศึกษา ๔๕ ชมรม ในสถานประกอบการ ๙ ชมรม ในชุมชน ๘๒๓ ชมรมและมีชมรม To Be Number One ที่ได้รับรางวัลจากการประกวด รางวัลดีเด่นระดับประเทศ ได้แก่ ..โรงเรียนกันตังพิทยากร ซึ่งอยู่ในระดับรักษามาตรฐานต้นแบบ และ บริษัทผลิตภัณฑ์ อาหารกว้างไพศาล  จำกัด(มหาชน) รางวัลดีเด่นระดับภาคใต้    ได้แก่.. ชุมชนบ้านนาบ่อ อำเภอกันตัง ชุมชนบ้านโคกแตรก อำเภอห้วยยอด วิทยาลัยเทคนิคตรัง วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร บริษัทไทเทครับเบอร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด  และ  บริษัท  บิ๊กซี ซุปเปอร์มาเก็ต  จำกัด   สาขาตรัง นอกจากนี้    จังหวัดตรังได้ขยายการจัดตั้งชมรมในสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง     สำนักงานคุมประพฤติ จังหวัดตรัง  รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์เพืิอนใจ To Be Number One ในย่านการค้าเซนเตอร์พอยด์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมเยาวชน วัยรุ่นของจังหวัด โดยหมุนเวียนอาสาสมัครจากศูนย์เพื่อนใจฯ ในสถานศึกษามาให้บริการ   ตามแนวคิด ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนาอีคิว ทุกวัน เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่เด็กและเยาวชน     รวมทั้งการสร้างและพัฒนาเครือข่ายการป้องกันปัญหายาเสพติด      เป็นการสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์     ภายใต้คำขวัญ เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด     และมุ่งมั่นพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง   ให้เป็นคนดี คนเก่ง ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข   องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง จัดฝึกอบรมเทคนิคการกรีดยาง ประจำปี 2558 หลักสูตร “เทคนิคการลับมีดกรีดยางพารา” รุ่นที่ 1 รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:23:06] ความเห็น (0) องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง  จัดฝึกอบรมเทคนิคการกรีดยาง ประจำปี 2558 หลักสูตร “เทคนิคการลับมีดกรีดยางพารา” รุ่นที่ 1 นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมเทคนิคการกรีดยาง ประจำปี 2558 หลักสูตร “เทคนิคการลับมีดกรีดยางพารา” รุ่นที่ 1 ณ ที่ทำการหมู่บ้าน บ้านน้ำฉา หมู่ที่ 1 ต.วังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ จ.ตรัง มีผู้สนใจเข้าร่วมการฝึกอบรมเกินเป้าหมายที่วางไว้     จำนวน 107 คน วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อพัฒนาผู้กรีดยางพาราให้เป็นนักลับมีดกรีดยางที่มีฝีมือ เรียกว่า “ช่างลับมีดกรีดยางมือชีพ” โดยทุกคนที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลับมีดกรีดยาง การดูแลรักษาสวนยางพาราที่ถูกต้อง ตั้งแต่เริ่มปลูกจนกระทั่งโค่นต้นยางเพื่อปลูกแทนรอบใหม่ และที่สำคัญคือทุกคนจะได้ทราบหลักการกรีดยางอย่างน้อย 4 ประการคือ จะกรีดยางอย่างไรจึงจะได้น้ำยางมากที่สุด/กรีดยางอย่างไรให้ต้นยางเสียหายน้อยที่สุด/จะทำอย่างไรจึงจะกรีดยางได้นานที่สุด อย่างน้อย 25-30 ปี และกรีดยางอย่างไรจึงเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ทั้งนี้นอกจากความรู้และเทคนิคต่างๆแล้ว ผู้เข้าร่วมการอบรมจะได้รับมีดกรีดยางและหินลับมีดคนละ 1 ชุดเพื่อนำไปฝึกปฏิบัติจริง โดยองค์การบริหารส่วน จ.ตรัง ได้ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.ตรัง จัดทำโครงการฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 จนมาถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 6 แล้ว และยังได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ในปีงบประมาณ 2558 มีเป้าหมายในการฝึกอบรม จำนวน 3,000 คน จำนวน 30 รุ่น แบ่งการฝึกอบรมเป็นรุ่นๆละ 100 คน ใช้เวลาฝึกอบรม 1 วัน โดยสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.ตรัง เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการถ่ายทอดให้ความรู้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมครั้งนี้ทางองค์การบริหารส่วน จ.ตรังเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด   นายก อบจ.ตรัง ต้อนรับและเป็นวิทยากรนำเยี่ยมชมมัสยิดกลางประจำจ.ตรัง ให้กับเยาวชนจากค่ายยุวชนมุสลิมภาคใต้สานสัมพันธ์อาเซียน รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:22:27] ความเห็น (0) นายก   อบจ.ตรัง ต้อนรับและเป็นวิทยากรนำเยี่ยมชมมัสยิดกลางประจำจ.ตรัง ให้กับเยาวชนจากค่ายยุวชนมุสลิมภาคใต้สานสัมพันธ์อาเซียน ที่มัสยิดกลางประจำ จ.ตรัง ตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง   นายกิจ  หลีกภัย นายก    อบจ.ตรัง  ให้การต้อนรับและเป็นวิทยากรนำเยี่ยมชมมัสยิดกลางประจำจ.ตรัง  ให้กับเยาวชนมุสลิมภาคใต้  14 จังหวัดและเยาวชนมุสลิมอีก6 ประเทศได้แก่ เวียดนาม/มาเลเซีย/ลาว/กัมพูชา/จีนและปาปัวนิวกีนี   จำนวนกว่า 130 คน ซึ่งเดินทางมาเข้าร่วมโครงการยุวชนมุสลิมภาคใต้สานสัมพันธ์อาเซียน ระหว่างวันที่ 26 ก.พ. – 2 มี.ค. 2558  ณ สวนพฤกษศาสตร์สากลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และเสริมสร้างให้เยาวชนที่เข้ารับการอบรมมีพฤติกรรมที่ดีงามตามหลักมารยาทของศาสนาอิสลาม และเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน พร้อมทั้งให้เยาวชนเรียนรู้ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราสดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนได้ตระหนักถึงความสำคัญและบทบาทของการเป็นคนดี นำไปสู่การสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มุ่งเน้นการรักษาไว้ซึ่งคุณงามความดี นายก  อบจ.ตรัง กล่าวตอนหนึ่งในการต้อนรับยุวชนมุสลิมว่า ที่ไปที่มาของการก่อสร้างมัสยิดกลางหลังนี้อาจจะแปลกกว่าที่อื่น ตรงที่คนคิดสร้างคือ   นายก อบจ.ซึ่งเป็นชาวพุทธ  แต่สร้างด้วยใจบริสุทธิ์ และได้ปรึกษา สอบถามคณะกรรมการอิสลามถึงความเหมาะสม เป็นไปได้ซึ่งสามารถทำได้ แบบของมัสยิดกลางแห่งนี้ได้ต้นแบบจากประเทศมาเลเซีย และมีการแก้ไขแบบให้สอดคล้องกับความเป็นไทย โดยนำลักษณะเด่นของมัสยิดทั่วโลกมาประมวลเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ชั้นใต้ดิน ได้ออกแบบให้เป็นห้องประชุม ห้องสมุด ห้องบรรยายอีกด้วย มัสยิดแห่งนี้รองรับผู้มาละหมาดได้ประมาณ 1,260 คน (ชาย 720คน หญิง 540 คน) ปัจจุบันอยู่ในช่วงการทาสี ตกแต่งโดม ลวดลายภายในซึ่งต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมาก   จังหวัดตรัง ประชุม กรอ. ร่วมกับ ภาคเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2558 รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:21:50] ความเห็น (0) จังหวัดตรัง ประชุม กรอ. ร่วมกับ ภาคเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2558 นายนิกร สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง ครั้งที่ 1/2558  ที่ ห้องประชุมพระยารัษฎา ศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 5  รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง     กล่าวว่า ในการประชุมได้มีการพูดคุยถึงประเด็นเรื่องการขออนุญาตเปิดทางจุดตัดรถไฟกับทางหลวงชนบท จำนวน 1 สาย คือ สาย ตง.3005 แยกทางหลวงหมายเลข 404-บ้านบางหมาก กม.ทางรถไฟที่ กม.834+319 (834/7-8) ระหว่างสถานีตรัง-กันตัง เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว ซึ่งในเรื่องนี้จังหวัดได้ดำเนินการประสานกับสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เพื่อจัดประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป โดยจะนัดประชุมกรรมการฯ ประมาณเดือนเมษายน 2558     ส่วนเรื่องของการปรับปรุงดูแลห้องน้ำสาธารณะและห้องน้ำของส่วนราชการให้มีความสะอาด และเรื่องการติดตามผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการการดำเนินการแก้ไขปัญหาป้ายบอกทางแหล่งท่องเที่ยวจังหวัด รวมถึงการดำเนินการแก้ไขจุดเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดอุบัติเหตุจราจรในจังหวัดตรัง ได้ส่งต่อเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป   เทศบาลนครตรังเตรียมจัดงานเสวนาย่อยงาน ๑๐๐ ปีเมืองทับเที่ยง ตอน“จิบน้ำชา เล่าเรื่อง เมือง ๑๐๐ ปี” รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:21:30] ความเห็น (0) เทศบาลนครตรังเตรียมจัดงานเสวนาย่อยงาน ๑๐๐ ปีเมืองทับเที่ยง ตอน“จิบน้ำชา เล่าเรื่อง เมือง ๑๐๐ ปี” นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่าตามที่เทศบาลนครตรังเตรียมจัดงาน  ๑๐๐ ปี เมืองทับเที่ยง ขึ้นในวันที่ 10-12 เมษายน 2558 ณ บริเวณสวนทับเที่ยง, ลานตราสัญลักษณ์ และสระน้ำเพิ่มสุข ถือเป็นวาระที่เหมาะสมในการเฉลิมฉลอง100ปีเมืองทับเที่ยง และยังสร้างองค์ความรู้ โดยมีรูปแบบผสมผสานกันระหว่าง งานนิทรรศการ การเสวนา การแสดง การทำป้ายแผนที่เมือง และการตกแต่งสถานที่สำคัญในเมือง  เป็นเวทีเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการ ของหน่วยงานต่างๆ สร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเมือง ให้กับประชาชนในจังหวัดตรังและนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ เข้าใจ ปลูกฝังสำนึกรักบ้านเกิด ก่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาเมืองและสังคมแขนงต่างๆ ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดตรัง ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ จ.ตรัง ต่างเห็นด้วยและเสนอให้มีการจัด “เสวนาสาธารณะ” ขึ้นควบคู่กันไป ภายใต้ชื่อ “เสวนาสาธารณะ ๑๐๐ ปี เมืองทับเที่ยง” ซึ่งการเสวนาจะจัดเป็นตอนๆตามเนื้อหาการเสวนาตลอดทั้งปี 2558 โดยตอนแรกใช้ชื่อตอนว่า “จิบน้ำชา เล่าเรื่อง เมือง๑๐๐ ปี” ในวันพุธที่ 4 มีนาคม 2558 ณ สวนทับเที่ยง เวลา 17.00 น.เพื่อกระตุ้นการรับรู้และการมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยน ข้อมูลทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม ตลอดจนการพัฒนา ในด้านต่างๆ รวมถึงการเสนอข้อคิดเห็นจากผู้รับฟังเสวนาเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาและจัดทำแผนพัฒนา “เมืองทับเที่ยง” อย่างยั่งยืนต่อไป โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย 1.คุณอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง (ด้านบริหารท้องถิ่น) 2.คุณประสาน อ่อนน้อม ประธานสภาเทศบาลนครตรัง (ด้านศิลปะ วัฒนธรรม และการแสดง) 3.อาจารย์สุนทรี สังข์อยุทธ์ อดีตหัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯตรัง (ด้านประวัติศาสตร์ฉ 4.อาจารย์ตรีชาติ เลาแก้วหนู คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง (ด้านฟื้นฟูอนุรักษ์และพัฒนามรดกทางสถาปัตยกรรม) 5.อาจารย์เขียนอิน ฝันเซียน ผู้อาวุโสท้องถิ่น (ด้านสังคม) 6.คุณสราวุธ สุธาพาณิชย์ รองประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัดตรัง(YEC) (ด้านกลุ่มพลังคนรุ่นใหม่).   เทศบาลนครตรัง ร่วมกับบริษัทเนชั่นฯเตรียมจัดการแข่งขันปั่นจักรยาน “ชวนปั่นเล่าเรื่องเมืองทับเที่ยง 100 ปี” 10-12 เมษายน 2558 รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:21:03] ความเห็น (0) เทศบาลนครตรัง    ร่วมกับบริษัทเนชั่นฯเตรียมจัดการแข่งขันปั่นจักรยาน “ชวนปั่นเล่าเรื่องเมืองทับเที่ยง 100 ปี” 10-12 เมษายน 2558 นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่าเทศบาลนครตรัง ร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง ตัวแทนจากบริษัทเนชั่นบรอดเคสติ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รณรงค์การปั่นจักรยานในเขตเทศบาลนครตรัง ด้วยการจัดการแข่งขันปั่นจักรยานภายใต้ชื่อ “ชวนปั่นเล่าเรื่องเมืองทับเที่ยง 100 ปี” ในวันที่ 12 เมษายน 2558 ซึ่งจะทำการถ่ายทอดสดทางช่องเนชั่นทีวี โดยมีวัตถุประสงค์    เพื่อส่งเสริมการใช้รถจักรยานเป็นพาหนะในการเดินทางประจำวันในเขตเมือง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตเมือง ส่งเสริมการออกกำลังกาย และส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านสันทนาการและด้านวัฒนธรรม สำหรับการสร้างเส้นทางจักรยานเทศบาลนครตรัง ได้รับงบประมาณจากกรมพลศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อสร้างเส้นทางจักรยานรอบเขตเทศบาลฯ รวมระยะทางกว่า 9.5 กิโลเมตร ทั้งนี้     จะมีจุดเริ่มต้นจากหน้าสำนักงานเทศบาลนครตรังเลี้ยวขวาไปตามรั้วภายใน ผ่านหน้าอำเภอผ่านหน้าศาลากลางหลังเก่า ข้ามถนนหน้าศาลากลางหลังเก่า ไปทางวงเวียนพะยูนตามเส้นทางถนนพัทลุง แวะข้ามไปพักที่อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ปั่นต่อไปทางถนนเวียนกะพัง เข้าสู่สวนสาธารณะกะพังสุรินทร์ ออกจากสวนฯผ่านสามแยกโกช้อยเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรักษ์จันทน์ ผ่านแยกกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดตรัง เลี้ยวขวาตรงไปตามถนนศรีตรัง1 แวะพักวัดนิโครธาราม ออกจากวัดไปตามถนนวัดนิโครธารามถึงแยกปัญญาวิทย์ เลี้ยวขวาออกถนนเพลินพิทักษ์ ถึงสามแยกวัดกุฏยาราม เลี้ยวซ้ายไปทางถนนห้วยยอด ถึงสามแยกหมี เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนวิเศษกุล  ผ่านหน้าสำนักอัยการจังหวัดตรัง ถึงสี่แยกโกกุน ตรงไปตามถนนวิเศษกุล ถึงสี่แยกหอนาฬิกา วนซ้ายผ่านหน้าศาลากลางหลังใหม่เข้าถนนรื่นรมย์จดถนนเส้นทางหน้าอนุสารีย์ ร.5  ทั้งนี้     เทศบาลนครตรังสนับสนุนให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง รวมทั้งนักท่องเที่ยวประชาชน หันมาปั่นจักรยานเพื่อลดโลกร้อน โดยจัดให้มีโครงการจักรยานยืมฟรี ปัจจุบันได้รับความสนใจมีประชาชน นักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก และยังนำจักรยานปั่น 4 คน มาบริการเพิ่มแก่นักปั่นชาวตรังอีกด้วย.   จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการ สร้างรายได้และพัฒนาการ เกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดตรัง ปี ๒๕๕๘ รายละเอียดของข่าว       [ทีมข่าว สวท.ตรัง-28/2/2558 11:20:34] ความเห็น (544) จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการ สร้างรายได้และพัฒนาการ เกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดตรัง ปี ๒๕๕๘  นายนิกร สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง   กล่าวในการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการ สร้างรายได้และพัฒนาการ เกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดตรัง ปี ๒๕๕๘     ว่า  ตามที่  คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยมีงบประมาณสนับสนุน ตำบลละล้านบาท      เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และสร้างโอกาสให้ชุมชน เกษตรกร เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของชุมชน ซึ่งจะเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในระยะยาว    ในส่วนของจังหวัดตรัง  ได้ดำเนินการในพื้นที่ ๓ อำเภอ ๘ ตำบล  คือ   อำเภอเมือง ๖ ตำบล   ประกอบด้วย ตำบลควนปริง   ตำบลโคกหล่อ ตำบลนาท่ามเหนือ ตำบลนาท่ามใต้    ตำบลนาบินหลา และตำบลหนองตรุด    / อำเภอห้วยยอด ๑ ตำบล คือ ตำบลนาวง และอำเภอนาโยง ๑ ตำบล คือ  ตำบลนาข้าวเสีย  อย่างไรก็ตาม แนวทางการดำเนินงานโครงการนี้ จะต้องผ่านเวทีชุมชน โดยเป็นความต้องการของชุมชน เกษตรกร สามารถรวมกลุ่มหรือเป็นองค์กรเกษตรกร ที่มีศูนย์บริการ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล เป็นองค์กรตัวแทนของชุมชน ในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ และเป็นผู้เสนอโครงการต่อคณะกรรมการ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป การบริการ เครือข่ายวิทยุ 7 จังหวัดภาคใต้ ผลิต/เผยแพร่สปอตประชาสัมพันธ์กิจกรรมของหน่วยงาน สวท.นราธิวาส Fm 98.25 Mhz ผลิต/เผยแพร่สปอตโฆษณาสินค้า สวท.พัทลุง Fm 98.00 Mhz ถ่ายทอดเสียงเผยแพร่กิจจกรรมนอกสถานที่ สวท.ปัตตานี Fm 101.00 Mhz เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารบริการสังคม สวท.ยะลา Fm 92.00 Mhz อัตราค่าบริการ สวท.สงขลา Fm 90.50 Mhz สวท.สตูล Fm 95.50 Mhz สวท.เบตง Fm 92.00 Mhz สวท.สุไหงโก-ลก Fm 106.50 Mhz

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดตรัง 254 ถนนตรัง-สิเกา ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โทรศัทพ์ : 075-570534,075-570536 โทรสาร : 075-570534 ห้องส่ง Fm91.25 Mhz : 075-570533 อีเมล์ : radiotrang@hotmail.com